ส่วนที่ 1 สวัสดิการให้เปล่า ประกอบด้วย

  1. การสงเคราะห์สมาชิกและคู่สมรส
    1.1 สมาชิกเสียชีวิต จะได้รับเงินสงเคราะห์ตามอายุการเป็นสมาชิก นับเป็นเดือนคูณด้วย 100 บวกด้วย 15,000 บาท แต่ไม่เกิน 75,000 บาท
    1.2 คู่สมรสเสียชีวิต จะได้รับเงินสงเคราะห์ครึ่งหนึ่งของอัตราที่กำหนดไว้ใน ข้อ 1.1
  2. ทุนบำเหน็จสมาชิก การจ่ายเงินบำเหน็จเมื่อสิ้นปีบัญชี สหกรณ์จะจ่ายเงินบำเหน็จให้แก่สมาชิกดังนี้
    2.1 จ่ายให้ทายาทเมื่อสมาชิกถึงแก่กรรม
    2.2 จ่ายให้สมาชิกเกษียณอายุราชการเมื่ออายุครบ 60 ปี
    2.3 สมาชิกที่ได้รับเงินบำเหน็จอายุครบ 60 ปีแล้ว ไม่มีสิทธิได้รับเงินบำเหน็จเมื่อถึงแก่กรรม
    การคำนวณเงินบำเหน็จ
    1. ให้นับอายุการเป็นสมาชิก คูณด้วย 100 บาท (การนับอายุสมาชิกให้นับเป็นเดือน)
    2. ให้นำเงินค่าหุ้นของสมาชิกในรอบปีบัญชีสหกรณ์ คูณด้วย 5% แต่ไม่เกิน 25,000 บาท แล้วนำไปรวมกับ ข้อ 1 รวมเป็นเงินบำเหน็จที่สมาชิกจะได้รับในปีนั้น หุ้นที่นำมาคำนวณเงินบำเหน็จนี้เป็นรายเดือนที่ส่งตามปกติรวมกับหุ้นที่เกิดจากการซื้อไว้ไม่น้อยกว่า 5 ปี
    3. กรณีสมาชิกเกษียณอายุราชการหรือสมาชิกสหกรณ์อายุครบ 60 ปี ไม่ขอรับเงินบำเหน็จในปีนั้น ก็ให้ขอรับเงินบำเหน็จได้ในปีถัดไป โดยให้นับอายุการเป็นสมาชิกถึงปีที่เกษียณอายุครบ 60 ปี
      สมาชิกถึงแก่กรรม ทายาทไม่มาติดต่อขอรับเงินบำเหน็จภายใน 1 ปี ถือว่าสละสิทธิ์ (ตามระเบียบข้อ 15)
      การจ่ายเงินบำเหน็จสมาชิก สหกรณ์จะจ่ายให้สมาชิกในวันสิ้นเดือน ตุลาคม ของทุกปี โดยโอนเข้าบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ในสหกรณ์
  3. การจัดสวัสดิการให้แก่สมาชิกผู้อาวุโส สมาชิกที่มีอายุตั้งแต่ 61 ปีขึ้นไป สหกรณ์จ่ายให้สมาชิก เมื่อครบรอบในเดือนเกิด ซึ่งเป็นการมอบของขวัญวันคล้ายวันเกิดให้แก่สมาชิกที่สร้างคุณประโยชน์และพัฒนาให้สหกรณ์เจริญก้าวหน้า เป็นสหกรณ์แบบอย่างให้แก่สหกรณ์อื่นๆ ทั่วประเทศ โดยสหกรณ์จะโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ในสหกรณ์ ภายในวันสิ้นเดือนในเดือนเกิด สมาชิกสามารถถอนเงินฝากได้ในวันทำการในเดือนถัดไป โดยจ่ายให้สมาชิกที่มีอายุตามรายละเอียด ดังนี้ อายุตั้งแต่ 61 – 65 ปี ได้รับ 2,000 บาท อายุตั้งแต่ 66 – 70 ปีได้รับ 2,500 บาท อายุตั้งแต่ 71 ขึ้นไป ได้รับ 3,000 บาท สมาชิกรายใดที่ได้รับเงินสวัสดิการจากสหกรณ์ไปแล้ว หากลาออกหรือถูกให้ออกจากสหกรณ์ไม่ว่ากรณีใดๆ ให้สหกรณ์หักเงินค่าหุ้นของสมาชิกรายนั้นเพื่อเป็นการชดเชยเท่ากับจำนวนเงินรวมทุกปี ที่สหกรณ์ได้จ่ายให้แก่สมาชิกรายนั้นเข้าเป็นรายได้ของสหกรณ์
    (ตามระเบียบข้อ 5 )
  4. เงินกองทุนสวัสดิการสมาชิก มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเงินกองทุนจ่ายเป็นสวัสดิการสงเคราะห์แก่ครอบครัวสมาชิก ที่ถึงแก่กรรม หรือจ่ายชำระหนี้ของสมาชิกที่ถึงแก่กรรม รายละ 300,000 บาท เงินกองทุนนี้จัดให้สมาชิกทุกคน ดังนี้
    1. เป็นสมาชิกก่อนวันที่ 1 ตุลาคม ของปีดำเนินการ
    2. สหกรณ์จะหักเงินสวัสดิการในอัตราร้อยละ 1 เพื่อสมทบเป็นกองทุนดำเนินการสวัสดิการ
    3. สมาชิกรายใดถึงแก่กรรม สหกรณ์จ่ายเงินกองทุนสวัสดิการ เพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่ในสหกรณ์หากมีเงินสวัสดิการคงเหลือจึงจ่ายให้แก่ทายาทต่อไป
    4. ทายาทสมาชิก ได้แก่ คู่สมรส บุตร บิดา มารดา
    5. สมาชิกอาจแสดงความจำนงเป็นลายลักษณ์อักษร ให้จ่ายเงินสวัสดิการแก่ผู้หนึ่งผู้ใดก็ได้ต้องเป็นบุคคลในครอบครัวหรือญาติ เท่านั้น
    6. ถ้าไม่มีทายาทมาติดต่อขอรับเงินสวัสดิการ สหกรณ์จะโอนเข้าเป็นเงินกองทุนสวัสดิการตามระเบียบ
    7. ให้ทายาทผู้มีสิทธิ์รับเงินสวัสดิการคนใดคนหนึ่งเป็นผู้ยื่นเรื่องขอรับเงินภายใน 90 วัน นับแต่วันที่ถึงแก่กรรม
    8. เงินสวัสดิการนี้ไม่ถือเป็นเงินมรดก มติคณะกรรมการดำเนินการอนุมัติการจ่ายไม่ว่ากรณีใดๆ ถือเป็นอันสิ้นสุดจะนำไปฟ้องร้องมิได้
  5. การให้ทุนการศึกษาบุตรสมาชิก
    1. เป็นบุตรของสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูอุดรธานี จำกัด ที่เป็นสมาชิกมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี
    2. การศึกษากำลังเรียนอยู่ในระดับปฐมวัยถึงระดับปริญญาตรี
    3. มีความประพฤติเรียบร้อย มีผลการเรียน คะแนนเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 2.00 (ยกเว้นระดับปฐมวัย)
    4. เป็นบุตรที่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งมิใช่บุตรบุญธรรมของสมาชิกสหกรณ์
    5. เงื่อนไขการขอรับทุน
      1. ให้ตามจำนวนสมาชิก เฉลี่ย 20.33 ต่อสมาชิก 1 คน
      2. มูลค่าทุนละ 3,000 บาท
      3. สมาชิกที่บุตรได้รับทุนการศึกษาแล้ว จะลาออกจากสมาชิกสหกรณ์ไม่ได้ภายในระยะเวลา 1 ปี นับจากวันที่ได้รับทุนผู้ขอรับทุนการศึกษาบุตร
      4. สมาชิกผู้ขอรับทุนการศึกษาบุตรจะต้องเป็นผู้ที่ไม่ได้รับทุนการศึกษาบุตรสมาชิกในปี 2563

ส่วนที่ 2 สวัสดิการที่สมาชิกประสงค์สมัครเอง ประกอบด้วย

  1. สวัสดิการ ส.ค.ส. 1 (ปิดการรับสมัคร)
    สมาชิกจะได้รับเงินสงเคราะห์เมื่ออายุครบ 60 ปี จำนวน 40,000 บาท และเมื่อเสียชีวิต ทายาทจะได้รับอีก 60,000 บาท รวมเป็นเงิน 100,000 บาท แต่ถ้าหากสมาชิกเสียชีวิตก่อนเกษียณอายุก็จะได้รับ จำนวน 100,000 บาท การจ่ายสงเคราะห์แบ่งเป็น 2 งวด งวดที่ 1 จ่ายค่าจัดการศพ 20% จำนวน 20,000 บาท งวดที่ 2 จ่ายสงเคราะห์ศพ 80% จำนวน 80,000 บาท
  2. สวัสดิการ ก.ส.ค. 1 (ปิดการรับสมัคร)
    สมาชิกบริจาคเงินสมทบ 10,000 บาท ทายาทได้รับเงินสงเคราะห์เมื่อสมาชิกเสียชีวิตจำนวน 200,000 บาท
  3. สวัสดิการ ก.ส.ค. 2 (ปิดการรับสมัคร)
    สมาชิกบริจาคเงินสมทบ 10,000 บาท ทายาทได้รับเงินสงเคราะห์เมื่อสมาชิกเสียชีวิตจำนวน 200,000 บาท
  4. สวัสดิการร่มเกล้าไทรทอง 2 (ปิดการรับสมัคร) สหกรณ์ได้จัดสวัสดิการให้ บิดา มารดา ของสมาชิกโดยจ่ายทุนสมทบตั้งแต่จำนวน 10,000 – 25,000 บาท ตามอายุบิดา มารดาของสมาชิก จ่ายเงินสงเคราะห์ 100,000 บาท โดยแบ่งเป็น 2 งวด คือ งวดที่ 1 จ่ายสงเคราะห์ศพ 30% จำนวน 30,000 บาท งวดที่ 2 จ่ายสงเคราะห์ศพ 70% จำนวน 70,000 บาท
  5. สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูอุดรธานี จำกัด (ส.ส.อด.)
    1. เป็นสวัสดิการที่มีการดำเนินการของคณะกรรมการสมาคมโดยเฉพาะ แต่ก็ถือว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกันและสามารถนำเงินสงเคราะห์ที่พึงจะได้รับมาประกันหนี้สหกรณ์ได้ แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม
    2. กลุ่มที่ 1 ประเภท ก.ข.ค. ประกอบด้วย สมาชิก คู่สมรส บุตรสมาชิก จ่ายสงเคราะห์ให้สมาชิกที่เสียชีวิต ศพละ 20 บาท คูณด้วยจำนวนสมาชิกกลุ่ม สมาชิกเสียชีวิตทายาทจะได้รับเงินสงเคราะห์ประมาณ 270,000 บาท
    3. กลุ่มที่ 2 ประเภท ง ประกอบด้วย บิดา-มารดาสมาชิก จ่ายสงเคราะห์ให้สมาชิกที่เสียชีวิตศพละ 20 บาท คูณด้วยจำนวนสมาชิกกลุ่ม
    4. สมาชิกเสียชีวิต ทายาทจะได้รับเงินสงเคราะห์ประมาณ 130,000 บาท
    5. หมายเหตุ การชำระเงินสงเคราะห์ศพ
      1. สมาชิกกลุ่มที่ 1 ถึงแก่กรรม สมาชิกในกลุ่มที่ 2 มีหน้าที่ ชำระเงินสงเคราะห์ศพ รายละ 5 บาท
      2. สมาชิกกลุ่มที่ 2 ถึงแก่กรรม สมาชิกในกลุ่มที่ 1 มีหน้าที่ ชำระเงินสงเคราะห์ศพ รายละ 5 บาท